May I introduce myself ?

mom mom1

ขอแนะนำตัวพร้อมกับคุณแม่สุดแสนจะใจดี

เกิดมาท่ามกลางพี่น้องทั้งหมด 5 คน เป็นชาย 1 หญิง 4 เป็นลูกสาวคนสุดท้องค่ะ

คุณพ่อมีอาชีพรับจ้างทั่วไป  คุณแม่เป็นแม่ค้า และทำหลายๆอย่าง

ที่เป็นสัมมาอาชีพ และสามารถหาเงินมาเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน

ไม่เคยอายที่จะบอกว่า “ครอบครัวเรามีฐานะไม่ร่ำรวย”

แต่จะอายมากกว่าว่า “ครอบครัวเรารวยเพราะทุจริต”

คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นคนดีหรือเลวได้

คุณพ่อเสียชีวิตแล้ว เมื่อ 29 มิถุนายน 2550

คุณแม่ยังดำเนินชีวิตเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดีมาโดยตลอดชีวิตของคุณแม่

ด้วยวัย 75 ตื่นตั้งแต่ตีสี่ เพื่อมาหุงข้าวใส่บาตรตอนหกโมงเช้าที่หน้าบ้าน

พร้อมพูดคุยกับเพื่อนบ้านที่มาร่วมบุญด้วย

หลังจากนั้นเก็บกวาดใบไม้ ถอนหญ้าบริเวณบ้าน เป็นการออกกำลังกายเล็กๆ ทุกวัน

สายๆหน่อย ก็นอนพักผ่อนกายา ฟังธรรมจากวิทยุบ้าง อ่านหนังสือธรรมะบ้าง

คุณแม่มีโรคเป็นของตัวเอง ประกอบด้วย ลิ้นหัวใจรั่ว 1 ห้อง หัวใจโต หัวใจเต้นผิดจังหวะ

รวมถึง เบาหวาน ไขมันสูง ความดันโลหิตสูง ปัจจุบันไปพบแพทย์ที่สถาบันทรวงอกทุก 4 เดือน

คุณแม่ไม่ค่อยสอนด้วยคำพูด แต่จะทำให้ดูมากกว่า

สิ่งที่คุณแม่บอกเสมอๆ คือ ต้องเป็นคนมีสัจจะ

ตอนเด็กๆ ก็ยากที่จะเข้าใจนะ ก็ฟังๆ ผ่านหูไปอย่างนั้นแหละ พอโตขึ้นถึงเข้าใจ

นั่นอาจเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เรา “เกลียด” คนไม่มีสัจจะ

ยอมรับว่าเป็นคนตรงๆ ยึดความถูกต้องมากกว่าความถูกใจ

ไม่แปลกที่จะเป็นคนมีเพื่อนน้อยมาก 555

ไม่ได้เกิดมาเพื่อจะถูกใจใครๆ เพราะไม่ใช่ดารา นักแสดง นักร้อง นี่คร้าาาา………..

เล่าเรื่องอดีตกันบ้างดีกว่า

สมัยเด็กๆ ที่จำได้แม่นยำ ได้สร้างวีรกรรมไว้กับคุณแม่ 2 เรื่อง

เรื่องแรกร้องไห้ตาม อยากไปดูลิเกที่วัด ทั้งๆที่ฝนกำลังจะตกและลมแรงมาก

แต่คุณแม่มีจิตศรัทธาจะไปช่วยงานที่วัด

เราออกฤทธิ์แรงกล้าและต้องการเอาชนะ ด้วยการปีนขึ้นต้นฝรั่ง ซึ่งลมกำลังพัดอย่างแรง

คุณแม่บอกให้ลงมา แต่เราไม่เชื่อ จนคุณแม่หันหลังปล่อยเราทิ้งไว้คนเดียวนั่นแหละ

คราวนี้ร้องไห้มากกว่าเดิม ไม่ใช่โกรธที่โดนทิ้ง แต่ร้องไห้เพราะความกลัว…….

ปีนขึ้นมาได้ไงฟร่ะ…….. สูงมากๆ แล้วจะลงยังไง

เรื่องที่สอง อันนี้ขอบอกว่าทำครั้งแรกและครั้งเดียวจริงๆ ในชีวิต

เพราะเจอตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ…………..มันเจ็บมากกกก

น่าจะเป็นวันหยุดเสาร์หรืออาทิตย์ เราอยู่บ้านคนเดียว นอนดูคอนเสิร์ทในทีวีสี สิบสี่นิ้ว

มันเป็นทีวีสีเครื่องแรกของบ้านเรา แม่คงสงสารที่เราต้องไปดูบ้านคนอื่น

(เลยอดออม กลั้นใจซื้อให้ลูกๆ ทั้งที่วันๆเงินไม่พอค่าใช้จ่ายในบ้าน)

ถ้าเขาเปิดถึงได้ดู บางครั้งต้องช่วยลูกเขาถูบ้านก่อนอีกต่างหาก….น่าสงสารเนอะ

เข้าเรื่องดีกว่า เราเลื่อนที่นอนที่ทำด้วยหวาย เข้าไปใกล้ๆ

แล้วใช้รีโมทส่วนตัว(นิ้วเท้าของเราเองเปลี่ยนช่อง) ซึ่งสมัยก่อนทีวียังไม่มีรีโมท

อยู่ๆ เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด มีด้ามไม้กวาด ฟาดลงมาหน้าแข้งเราอย่างแรง

น้ำตาไหลพรากๆ ดั่งดูละครไทย

บอกแล้วไง คุณแม่เราไม่ชอบสอนด้วยคำพูด ฮือๆๆๆ

ฝันดี ราตรีสวัสดิ์ >>> ขอบคุณมากน้าาา…..ที่แวะมาอ่าน จุ๊ฟๆๆ

Share : 11/6/2014 22:14

 

Leave a comment